การทำศัลยกรรมแก้จมูก
“การทำศัลยกรรมแก้จมูก (Revision Rhinoplasty) คืออะไร?”
การทำศัลยกรรมแก้จมูกที่VIPเป็นการทำศัลยกรรมแบบพรีเมี่ยมที่ช่วยสร้างจมูกใหม่และลดปัญหาที่เป็นผลมาจากการทำศัลยกรรมในอดีต เราใช้วัสดุจากธรรมชาติเพื่อป้องกันผลข้างเคียงและความเสียหายของเนื้อเยื่อ การใช้กระดูกอ่อนซี่โครงจากธรรมชาติ 100% เหมาะสมที่สุดในการทำศัลยกรรมแก้จมูกเนื่องจากปัญหาส่วนใหญ่ที่คนไข้เจอมาจากผลข้างเคียงของการใช้วัสดุเสริม และตัวคนไข้เองก็ได้ใช้กระดูกอ่อนจากผนังกั้นช่องจมูกไปกับการทำศัลยกรรมครั้งก่อน ๆ จนหมดแล้ว และเนื่องจากการทำศัลยกรรมแก้จมูกเป็นหนึ่งในวิธีการทำศัลยกรรมตกแต่งที่ท้าทายที่สุดคนไข้จึงต้องมีการพูดคุยกับแพทย์อย่างละเอียดเพื่อการแก้ปัญหาที่ตรงจุดและบรรลุเป้าหมายที่ต้องการ
ข้อความจากคุณหมอ
“ทำไมอัตราการทำศัลยกรรมแก้จมูกจึงสูงกว่าการทำศัลยกรรมชนิดอื่น? เหตุผลหลักมาจากผลข้างเคียงของการใช้วัสดุเสริมจมูกเช่นซิลิโคน ที่ให้ผลลัพธ์ไม่เป็นที่น่าพอใจ เมื่อคุณตัดสินใจทำศัลยกรรมเสริมจมูก คุณควรคำนึงถึงผลลัพธ์ระยะยาวแบบ 10 ปี หรือ 20 ปีขึ้นไป ไม่ใช่การเสริมจมูกที่อยู่ได้แค่ชั่วคราว”
แม้ว่าหลายคนจะคิดว่าการทำศัลยกรรมจมูกเป็นเรื่องง่าย แต่ในความเป็นจริงแล้วมันมีขั้นตอนที่ซับซ้อนมากและต้องอาศัยประสบการณ์และความชำนาญเพื่อให้คนไข้ได้รับผลลัพธ์ที่ดีที่สุด แพทย์ควรต้องมีการหาอัตราส่วนที่สร้างความสอดคล้องกลมกลืนให้กับใบหน้าของคนไข้แต่ละคนเนื่องจากคนไข้ต่างมีโครงสร้างใบหน้าที่แตกต่างกันจึงต้องการมีรูปทรงของจมูกที่เหมาะกับใบหน้านั้น ๆ
เนื่องจากการทำศัลยกรรมแก้จมูกต้องอาศัยเทคนิควิธีการขั้นสูงซึ่งต่างจากวิธีการเสริมจมูกทั่ว ๆ ไป การสรรหาแพทย์ที่เหมาะกับการทำศัลยกรรมชนิดนี้จึงค่อนข้างยาก กล่าวคือแพทย์จะต้องได้รับการรับรองทางด้านการทำศัลยกรรมจมูกและเคยทำการผ่าตัดศัลยกรรมแก้จมูกมาแล้วอย่างโชกโชน ในฐานะที่เป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย ผมได้ฝึกฝนการทำศัลยกรรมเพื่อความสวยความงาม การทำศัลยกรรมแก้จมูก การทำศัลยกรรมเสริมสร้างเช่น การทำศัลยกรรมเสริมจมูกเพื่อแก้ไขอาการปากแหว่ง มาแล้วกว่า 24 ปีแล้ว ผมยังคิดเสมอว่าการการทำศัลยกรรมแก้จมูกเป็นศัลยกรรมตกแต่งที่มีความท้าทายมากเพราะต้องอาศัยเทคนิควิธีกาในการรแก้ไขและเสริมสร้าง และต้องโฟกัสที่คนไข้แบบตัวต่อตัวเนื่องจากคนไข้แต่ละคนมีประวัติการรักษาและการทำศัลยกรรมในอดีตที่แตกต่างกัน
ยิ่งไปกว่านั้นการให้คำปรึกษาอย่างถูกต้องถูกสถานการณ์จากคุณหมอมีความสำคัญเป็นอย่างมากและมีส่วนทำให้การทำศัลยกรรมเกิดความปลอดภัยและเป็นที่น่าพึงพอใจ คุณควรมองหาแพทย์ที่ให้คำแนะนำเฉพาะการทำศัลยกรรมที่จำเป็นที่สุดเพื่อเป็นการลดโอกาสการเกิดผลข้างเคียงต่าง ๆ และรักษาความเป็นธรรมชาติที่คุณมีให้ได้มากที่สุด โดยปกติแล้วการทำศัลยกรรมแก้จมูกต้องทำหลังจากการทำศัลยกรรมครั้งล่าสุดหนึ่งปี ในบางกรณีอาจมีการแก้หลังจากหกเดือน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพจมูกของคนไข้แต่ละคน สิ่งที่คนไข้ควรคำนึงถึงในการเลือกคลินิกศัลยกรรมนอกจากรีวิวและภาพก่อน-หลังการทำศัลยกรรมแล้ว การพูดคุยกับแพทย์นับเป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน ถามคุณหมอของคุณให้แน่ชัดว่าการผ่าตัดจะถูกทำอย่างไร ใช้วัสดุอะไรสำหรับกสรเสริมจมูก และผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นภายหลังจาการทำศัลยกรรม นอกจากนี้ควรถามเกี่ยวกับบริการการดูแลหลังการทำศัลยกรรมด้วยเนื่องจากมันจะมีผลอย่างมากกับผลลัพธ์ที่ได้จากการทำศัลยกรรม การแก้จมูกอาจเป็นเรื่องน่าปวดหัว แต่ถ้าหากคุณสามารถหาแพทย์ที่สามารถให้คำปรึกษากับคุณได้อย่างละเอียดและเข้าใจสิ่งที่คุณต้องการแล้ว ผลที่ตามมาหลังการทำศัลยกรรมแก้จมูกย่อมคุ้มค่าแน่นอน
ข้อมูลการทำศัลยกรรม
- เวลาในการผ่าตัด: ขึ้นอยู่กับสภาพจมูก
- ประเภทของยาชาที่ใช้: ยาสงบประสาท (IV sedation) หรือยาสลบ (General Anesthesia)
- ระยะเวลารักษาตัวในโรงพยาบาล: 0-1 วัน
- การตัดไหม: 7-10 วัน
- ระยะเวลาพักฟื้น: 10 วัน
ผลข้างเคียงจากการเสริมจมูก 13 ประการที่ต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน
เมื่อมีการใส่ซิลิโคนเสริมที่ปลายจมูก ผิวหนังของคนเราจะบางลง จึงส่งผลให้เกิดผลข้างเคียงในภายหลัง การใช้กระดูกอ่อนด้านในใบหูที่นำมาเสริมปลายจมูกสามารถทำให้เกิดผลข้างเคียงได้เช่นกัน เพราะฉะนั้นกระดูกอ่อนโครงสร้างซึ่งเป็นกระดูกอ่อนที่ใช้ในการสร้างโครงสร้างให้กับจมูกจะเป็นตัวช่วยให้ผลลัพธ์ของการทำศัลยกรรมออกมาเป็นธรรมชาติ วิธีการดังกล่าวเรียกว่าการทำศัลยกรรมเสริมจมูกโดยใช้เนื้อเยื่อของตัวเอง
ซิลิโคนบริเวณปลายจมูกทำให้ผิวหนังเกิดความระคายเคือง ซึ่งเป็นผลให้เกิดรอยแดงและผิวหนังหดรั้งจนเห็นรอยซิลิโคนยื่นออกมา ดังนั้นจึงควรที่จะทำการแก้โครงสร้างจมูกด้วยการใช้กระดูกอ่อนจากร่างกายตนเองเพื่อลดปัญหาดังกล่าวและให้ดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด
ซิลิโคนเสริมจมูกอาจเกิดการโค้งงอภายในจมูกเนื่องจากผนังกั้นช่องจมูกมีความคดอยู่ก่อนแล้วทำให้ไม่สามารถรองรับโครงสร้างของจมูกได้ หากผนังกั้นช่องจมูกไม่ได้รับการแก้ไขก่อนการใส่ซิลิโคน รูปทรงจมูกจะเกิดความไม่สมมาตรเพราะโครงสร้างมีความผิดรูปดังกล่าว ดังนั้นการตวรจเช็คความคดของผนังกั้นช่องจมูกก่อนการทำศัลยกรรมเสริมจมูกจึงมีความสำคัญมาก ถ้าผนังกั้นช่องจมูกคด คนไข้ควรทำการแก้ไขจุดนั้นก่อนเพื่อสร้างความมั่นคงให้กับโครงสร้างจมูกจากนั้นจึงค่อยทำการเสริมจมูก การทำศัลยกรรมแก้ไขผนังกั้นช่องจมูกคดเหมาะเป็นอย่างยิ่งในกรณีน
เมื่อซิลิโคนที่บริเวณปลายจมูกเกิดความผิดรูป ผิวหนังจะเริ่มบางขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อเวลาผ่านไป และเนื่องจากปลายจมูกมีซิลิโคนดังกล่าวเป็นฐานรองรับ ผิวหนังจึงเกิดเป็นรอยแดง การทำศัลยกรรมเสริมจมูกด้วยการใช้เนื้อเยื่อที่มาจากร่างกายตัวเองสามารถช่วยป้องกันปัญหานี้ได้ อีกทั้งยังทำให้จมูกดูเป็นธรรมชาติอีกด้วย
การใช้เนื้อเยื่อเทียม (AlloDerm) โดยปราศจากการปรับเปลี่ยนโครงสร้างจมูกที่มีความกว้างก่อนอาจทำให้รูปทรงของจมูกเกิดความสั้น หนา และปลายจมูกทู่ ในการที่จะสร้างปลายจมูกที่สวยงามนั้น ผิวหนังจะต้องใีความบางและรูปทรงของกระดูกอ่อนโครงสร้างจะต้องเล็กและยื่นออกมา การทำศัลยกรรมเสริมโครงสร้างจมูกโดยใช้เนื้อเยื่อจากร่างกายตนเองจึงมีความจำเป็นในกรณีน
เมื่อจมูกเกิดการหดรั้งเนื่องมาจากการใช้วัสดุเสริม ปลายจมูกจะเชิดขึ้นอย่างมากจนทำให้เห็นรูจมูกชัดเจน ในกรณีของจมูกที่เชิดเข้าขั้นรุนแรง ควรมีการกำหนดความยาวของโครงสร้างจมูกให้แน่นอน จากนั้นจึงกำหนดความสูงด้วยการใช้เนื้อเยื่อจากร่างกายตนเอง
ปกติแล้วจมูกปลายตกไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยการใช้ซิลิโคนเสริมดั้งและปลายจมูกเนื่องจากกระดูกอ่อนที่รองรับปลายจมูกมีความบอบบางและเอนตัวไปด้านหน้า การใช้เนื้อเยื่อที่มาจากร่างกายตนเองในการรองรับจมูกส่วนหน้าเพื่อให้ปลายจมูกยกขึ้นจึงมีความจำเป็นอย่างมาก
กระดูกอ่อนผนังกั้นช่องจมูกซึ่งอยู่ตรงกลางของจมูกเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้รูจมูกมีความสมมาตรกัน ในกรณีของผู้ที่มีผนังกั้นช่องจมูกคดอันเนื่องมาจากการบาดเจ็บในอดีต มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะแก้ไขความคดของผนังกั้นช่องจมูกก่อนกระบวนการการเสริมจมูก
คนเอเชียจำนวนมากฐานปีกจมูกมีลักษณะเป็นแอ่ง ปลายจมูกและริมฝีปากทำมุมแคบ และปากยื่น สำหรับคนกลุ่มนี้การเสริมสันจมูกเพียงอย่างเดียวโดยที่ไม่ทำการแก้ไขรอยบุ๋มและองศาระหว่างปลายจมูกกับปากทำให้จมูกดูไม่เป็นธรรมชาติและนำไปสู่การทำศัลยกรรมแก้ไขจำนวนหลายครั้ง การสร้างโครงสร้างที่แข็งแรงเพื่อรองรับรูปทรงจมูกเป็นสิ่งที่ควรทำเป็นอันดับแรก จากนั้นจึงทำการขยายความกว้างขององศาจมูกและริมฝีปากด้วยวิธีการเสริมความบุ๋มกลางใบหน้าจากVIP การผสมผสานทั้งสามวิธีนี้ (การทำศัลยกรรมเสริมจมูกแบบสอดคล้องกลมกลืน) ช่วยให้ปากยื่นน้อยลงและคางดูเล็กลงทำให้ใบหน้ามีรูปทรงที่ดูเป็นธรรมชาติและมีความสมดุล
สันตรงกลางจมูกเป็นส่วนที่รองรับรูจมูกทั้งสองข้าง หากกระดูกอ่อนผนังกั้นช่องจมูกมีขนาดสั้น สันกลางจมูกจะมีลักษณะเป็นแอ่ง ดังนั้นจึงมีความจำเป็นในการปลูกถ่ายกระดูกอ่อนในช่องว่างระหว่างปลายจมูกกับริมฝีปากเพื่อเพิ่มความบุ๋มของสันตรงกลางจมูกน
องศาที่เหมาะสมระหว่างสันจมูกกับปลายจมูกไม่ใช่ 90° แต่ควรอยู่ที่ประมาณ 30°- 45° การทำมุมดังกล่าวสามารถเกิดขึ้นจากการวางซิลิโคนหรือกระดูกอ่อนไปด้านหน้าสำหรับคนที่มีจมูกสั้น
เมื่อมีการติดเชื้อของวัสดุเสริมเช่นซิลิโคนหรือกอร์เท็กซ์ จมูกอาจเกิดการหดรั้งและผิดรูปทรง ยิ่งจมูกมีความสั้นมากเท่าไร ความบิดเบี้ยวผิดรูปก็จะมีมากเท่านั้น ในกรณีนี้การใช้เนื้อเยื่อจากร่างกายตนเองสามารถช่วยสร้างโครงสร้างจมูกขึ้นใหม่ได้
เมื่อมีการฉีดซิลิโคนเข้าไปในใบหน้าหรือจมูก ผิวจะเกิดรอยแดงหรือมีก้อนเนื้อเกิดขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป และอาจเกิดการตายของเซลล์หรือเนื้อเยื่อได้ในกรณีที่เข้าขั้นรุนแรง การกำจัดสารผิดกฎหมายที่ถูกฉีดเข้าร่างกายสามารถทำการแก้ไขได้ยากมาก ในกรณีนี้จำเป็นต้องทำการกำจัดสารที่ยังหลงเหลือจากการฉีดรวมทั้งก้อนเนื้อก่อน จากนั้นจึงทำการเสริมจมูกด้วยเนื้อเยื่อที่มาจากร่างกายคนไข้เองเพื่อสร้างโครงสร้างจมูกขึ้นใหม
5 สาเหตุที่ทำให้เกิดการเพิ่มขึ้นของการทำศัลยกรรมแก้จมูก
ก่อน & หลัง
ผู้ที่เหมาะกับการทำศัลยกรรมแก้จมูก
วิธีการทำศัลยกรรมแก้จมูกแบบเอ็กซ์คลูสีฟของVIP
การทำศัลยกรรมแก้จมูกซึ่งใช้กระดูกอ่อนซี่โครงจากธรรมชาติ 100% เพื่อแก้ปัญหาทั้งด้านการใช้งานและความสวยความงามอันได้แก่ ความแดงของผิว การติดเชื้อ การคดงอ การพังทลาย โรคไซนัสอักเสบ และรูปลักษณ์ที่ขาดความเป็นธรรมชาติ
การดูแลหลังการผ่าตัด
การทำศัลยกรรมที่เกี่ยวข้อง
ติดต่อเรา
สำหรับการรับคำปรึกษาออนไลน์ฟรีหรือเพื่อทำการนัดหมาย โปรดกรอก แบบฟอร์ม ด้านล่างนี้ สำหรับการรับคำปรึกษาผ่าน Whatsapp โปรดติดต่อ +82-10-5059-6626